วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ผ้ากฐินพระราชทาน-พศ.นำถวาย พระสงฆ์วัดคีรีวิหาร-วัดพระแก้วดอนเต้า

ผ้ากฐินพระราชทาน-พศ.นำถวาย พระสงฆ์วัดคีรีวิหาร-วัดพระแก้วดอนเต้า

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นำผ้ากฐินพระราชทานประจำปี 2555 ไปถวายพระสงฆ์จำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ วัดคีรีวิหาร ต.ชำรวก อ.เมือง จ.ตราด ในวันอาทิตย์ที่ 4 พ.ย.2555 และวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง ในวันเสาร์ที่ 10 พ.ย.2555 โอกาสนี้จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมอนุโมทนากุศลตามกำลังศรัทธา โดยสามารถร่วมบริจาคทรัพย์หรือสิ่งของได้ที่ฝ่ายกองทุนศาสนสมบัติ สำนักงานศาสนสมบัติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขากระทรวงศึกษาธิการ ชื่อบัญชี "เงินร่วมการกุศลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ" เลขที่บัญชี 059-1-07498-2 สอบถามรายละเอียด โทร.0-2446-8270-1
การทำบุญถวายผ้าพระกฐินที่เรียกว่า กฐินทาน เกิดขึ้นและมีการปฏิบัติตั้งแต่เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ได้ทรงอนุญาตให้พระ ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาถ้วนไตรมาสแล้วมารับผ้าที่ประชาชนนำมาถวาย หลังจากออกพรรษา ซึ่งเป็นฤดูจีวรกาล คือช่วงระยะเวลาการทำจีวรของพระภิกษุเพื่อเปลี่ยนผ้านุ่ง ผ้าห่มใหม่แทนผ้าที่เก่ามากหรือขาดชำรุด โดยเริ่มทำในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 ดังนั้น กฐินทานจึงมีกำหนดระยะเวลาในการถวายพระสงฆ์วัดต่างๆ ในช่วงออกพรรษาแล้ว เพียง 29 วัน สำหรับกฐินทาน แบ่งเป็น กฐินหลวง ปัจจุบันจำแนกได้ 3 ประเภท คือ กฐินหลวงที่กำหนดเป็นพระราชพิธี พระกฐินต้น และพระกฐินพระราชทาน อีกประเภทหนึ่งคือ กฐินราษฎร์ คือกฐินทานที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาจัดกฐินไปทอด ณ วัดราษฎร์ต่างๆ จำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ มหากฐิน จุลกฐิน และกฐินตกค้าง อานิสงส์สำหรับผู้จัดทอดกฐินทาน เป็นสังฆทานพิเศษมีอานิสงส์ ทางพระวินัยแก่พระภิกษุผู้กรานกฐิน และอนุโมทนากฐิน มีอานิสงส์ หรือสิริมงคลอันประเสริฐแก่ผู้มีจิตศรัทธาจัดถวายกฐินทาน ดังปรากฏในทานานิสังสสูตร ซึ่งพระพุทธองค์ตรัสอานิสงส์การให้ทาน คือ ผู้ให้ทานย่อมเป็นที่รักชอบใจของชนหมู่มาก

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น