วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วิบากกรรมประเทศชาติ กรณีศึกษาผ้าป่าหลวงตามหาบัว หายไปไหน?

วิบากกรรมประเทศชาติ กรณีศึกษาผ้าป่าหลวงตามหาบัว หายไปไหน?



เงินกองทุนผ้าป่าช่วยชาติหายไปไหน? พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว พระสุปฏิปันโน แห่ง วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ซึ่งประกาศก้องแผ่นดินว่า ประโยชน์ของท่าน ได้บำเพ็ญเพียงสำเร็จแล้ว ตามที่มุ่งหวังไว้ในการเป็นพระภิกษุ ผู้มุ่งเผาผลาญกิเลสน้อยใหญ่ บรรลุแล้ว ชีวิตที่มีลมหายใจอยู่นี้ ขอยังประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมือง


นับแต่นั้น โครงการผ้าป่าช่วยชาติ ก็ถูกนำมาเผยแพร่ออกสู่สายตาประชาชน โดยมีหลวงตามหาบัว เป็นประธานรับบริจาคเงินสด ทั้งบาท และดอลล่าร์สหรัฐ รวมถึงทองคำ

บารมีของหลวงตาบัวขจรขจายไปทั่วสารทิศ เพียงไม่กี่เดือน ประชาชนก็ได้นำเงินทองคำ มาถวายหลวงตามหาบัวเป็นจำนวนมาก

จากวันนั้น ถึงวันนี้ มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทแล้ว

ข้อวัตรปฏิบัติของพระป่าอย่างหลวงตามหาบัว ที่ยืนยัน จะเป็นแบบอย่างของคนไทยทั้งชาติ ในการปลุกสำนึกให้พี่น้องชาวไทย ปกป้องแผ่นดินแม่

เป้าหมายของ หลวงตาบัว วัดป่าบ้านตาด ในการเรี่ยไรรับเงินบริจาค ก็เพื่อนำเงินและทองคำมาฝากไว้กับคลังหลวง เพื่อเป็นเงินก้นถุงให้กับประเทศ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็สามารนำเงิน ส่วนนี้มาใช้ได้

รัฐบาลภายใต้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาเป็นตัวตั้งตัวตีประสานเสียงรับความเห็นท่วงทีของหลวงตามหาบัว โดยจัดตั้งโครงการกองทุนไทยช่วยไทย มี "สุพัตรา มาสดิตถ์" ดูแล แต่แล้วโครงการไทยช่วยไทย ก็ยกเลิกไปอย่างไร้เหตุผล

ทว่าผ้าป่าช่วยชาติ ที่มีพระแก่ ๆ อย่างหลวงตามหาบัว ยังคงเดินหน้าต่อไป อย่างไม่หยุดยั้ง เพ่อให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้

ครับ ผมไม่รู้ว่า จะพูดอย่างไรถูก สำหรับความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูประเทศชาติ หากเปรียบเทียบระหว่างหลวงตามหาบัว กับคณะรัฐมนตรีแล้ว ประชาชนย่อมตัดสินได้ว่า ใครจริงใจ ที่จะช่วยเหลือชาติ ให้พ้นวิกฤติทางเศรษฐกิจกันแน่

ภาพที่ปรากฏต่อสายตาประชาชนในห้วง เวลานี้ ผมกล้าพูดได้ว่า แม้แต่สงฆ์ผู้มีอายุเข้าสู่ปัจฉิมวัย ยังเป็นห่วงเป็นใยต่อประเทศชาติถึงเพียงนี้ แต่รัฐบาลกลับมุ่งเน้นแต่จะ "ขายชาติ" ขายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า

อีกหน่อย คงขาย "ถั่วดำ" ของรักของคน ปชป. กินกันบ้างล่ะ ฮืม

จะ ปฏิเสธ จะตะแบง อะไรอีก "ชวน หลีกภัย" ทนายแก้ต่างแก้ไปทุกเรื่อง จนยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังไปหมดแล้ว "สนั่น ขจรประศาสน์" ก็คนดี ยิ่งไปกว่านั้น กล่องดวงใจอย่าง "ธารินทร์ นิมมานเหมินท์" ใครจะไปแตะต้องได้

การนำเงินผ้าป่าช่วยชาติของหลวงตามหาบัว ไปใช้ผิดประเภท ก็ส่อแสดงให้เห็นถึงสันดานเอาแต่ได้ มักง่ายเข้าว่า ของรัฐบาลนี้ได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะหลักการที่ว่า "ดีใส่ตัว ชั่วโยนให้ชาวบ้าน"

ชวน หลีกภัย ออกมาพูดถึงเรื่องเงินผ้าป่าช่วยชาติว่า รัฐบาลไม่เกี่ยว กระทรวงการคลัง ไม่ได้รับเงินจากโครงการนี้ เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

รัฐบาลคิดว่า ประชาชนกินแกลบกินหญ้างั้นหรือ?

จึงกล้าออกมาโยนกลองแหกตาประชาชนอีก จริงอยู่ แม้ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง จะไม่ได้หยิบเงินจากผ้าป่าหลวงตามหาบัว มาใช้โดยตรง

แต่ การที่รัฐบาล โดยคณะรัฐมนตรี สุมหัวกันผ่านกฎหมาย "อัปมงคล" ว่าด้วย พ.ร.บ.แบงก์ชาติ ซึ่งแม้แต่ "หม่อมเต่า - จตุมงคล โสณกุล" ผู้ว่าธปท. จะออกมาคัดค้านถึงการ รวมบัญชีของธปท.ไว้เป็นบัญชีเดียวกัน แต่ ครม.ก็ยังตะแบงผ่านกฎหมายได้

รัฐบาลขายชาติ จะปฏิเสธความรับผิดชอบอย่างไร เกี่ยวกับการนำเงินผ้าป่าช่วยชาติไปใช้ผิดประเภท การออกมาอ้างว่า เป็นหน้าที่ของ ธปท. ที่จะดูแลเงินดังกล่าว ให้สมดัง เจตนารมณ์ของผู้บริจาค จึงเป็นเรื่องที่เด่นชัดยิ่งในการปฏิเสธความรับผิดชอบ อย่างหน้าละอายที่สุด

นายกรัฐมนตรีที่ประกาศตัวว่า เติบโตมาจากลูกชาวบ้าน เป็นเด็กวัดเก่า น่าจะแสดงจุดยืนเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจน ผมไม่อยากจะเชื่อว่า คนอย่าง ชวน หลีกภัย จะลืมยางข้าว ก้นบาตร ดังนั้น จะต้องแสดงความกล้าหาญ รับผิดชอบต่อเหตุกรณ์ที่เกิดขึ้น

หลวงตามหาบัวท่านก็พูดชัดแจ้งแล้ว ว่า ต้องการให้นำเงินนั้น เก็บไว้เป็นเงินสำรองของชาติ ไม่ใช่ให้เอาไปใช้หนี้ฝรั่ง ไอเอ็มเอฟ ซ้ำยังระบุด้วยว่า เริ่มเกิดความไม่แน่ใจแล้วว่า เงินและทองคำที่ได้รับบริจาคนั้น รัฐบาลได้นำไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายอย่างไร

เพราะก่อนที่จะนำเงินไปมอบ ให้รัฐบาล มหาโจรก็อ้างตัวว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ นามสกุลตระกูลไม่ได้ด่างพร้อย และก็ไม่เคยตรวจสอบเลยว่า เงินที่มอบให้ไปนั้น จะนำไปใช้เพื่อ กิจการใดแน่

ถึงชั่งโมงนี้ มีคำถามว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ และทองคำมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทนั้น รัฐบาลนำไปเก็บไว้ที่ไหน หรือ ช่วยกันถลุงคนละมือละไม้ ผลาญจนเกลี้ยงไม่เหลือเสียแล้ว

หากอยู่ก็ต้องนำเงินและทองคำมาแสดง ให้ประชาชนได้เห็นกันจะจะ เพราะทุกวันนี้ รัฐบาลหมดเครดิต เชื่อถืออะไรต่อไปไม่ได้แล้ว ที่สำคัญต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏ ก่อนที่ประชาชนจะพากันเข้าชื่อถอดถอน รมว.คลังและนายกรัฐมนตรี

นี่ ขนาด พ.ร.บ.ฆราวาสปกครองสงฆ์ ยังไม่ผ่านความเห็นชอบเป็นกฎหมายบังคับ ยังเกิดเรื่องระยำต่ำทรามถึงเพียงนี้ได้ หากกฎหมายอัปยศผ่านความเห็นชอบ สถาบันสงฆ์จะ กลายเป็น ธนาคารให้พวกโจรใส่สูท ปล้นสะดม อย่างแน่นอน

เงินประเทศชาติผลาญกันจนหมดเกลี้ยงคนบาปกำลังจ้องฮุบวัด

ผมขอเตือนรัฐบาลคนบาป ระวังนรกจะกินกบาล

ทุก วันนี้ สถาบันหลักของชาติ โดยเฉพาะสถาบันสงฆ์ปั่นป่วนวุ่นวาย ปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่ง เกิดจากความอ่อนด้อย เบาปัญญาของฝ่ายการเมือง ที่ไม่เข้าใจวิธีอุปถัมภ์อุ้มชู พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์

โซตัส

ข้อมูล หนังสือพิมพ์ "พิมพ์ไทย" ปีที่ 3 ฉบับที่ 990 ประจำวันจันทร์ที่ 3 เดือนเมษายน พ.ศ. 2543              

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น